คุณสมบัติที่ดีของการเป็นลูกน้องที่น่ารัก 10 ประการ (ตอนที่ 2)
โดย อ.สุภาพร จันทร์เพชร
เรามาต่อกันอีก 5 ข้อที่เหลือนะคะ
6. รายงานความคืบหน้าของงานอยู่เสมอ
คนที่เป็นหัวหน้างานย่อมต้องการรู้ความคืบหน้าของงานว่าไปถึงไหนแล้ว คุณควรใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์เพื่อคุณจะได้ตรวจสอบการทำงานของตัวเองพร้อมเสนอแนะความคิดเห็นหรือขอไอเดียกับหัวหน้าของคุณได้ แต่จงจำไว้เสมอว่าคุณต้องไปพร้อมกับคำตอบก่อนที่จะถามความคิดเห็นของหัวหน้าคุณ รับรองว่าคุณได้ใจหัวหน้าอย่างแน่นอน เช่น วันจันทร์หน้าคุณจะไป Present งานกับลูกค้าข้างนอก คุณบอกหัวหน้าว่าคุณจะเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อไป Present อุปกรณ์ที่คุณจะต้องเตรียมมีหนึ่งสองสามคืออะไรบ้าง หลังจากนั้นคุณค่อยยิงคำถามกับหน้าของคุณว่าดีไหม ซึ่งคำถามนี้หัวหน้าของคุณก็จะให้คำแนะนำเพิ่มเติมกับคุณได้ดีทีเดียว
7. การทำงานเป็นทีม
คุณต้องรู้จักคำว่าสามัคคี ความสามัคคีนั้นทำได้ไม่ยากเพียงแค่เรารู้จักคำว่าให้และแบ่งปัน การทำงานเป็นทีมที่มีเป้าหมายเดียวกัน ทำไปในทิศทางเดียวกันจะทำให้เราฟันผ่าอุปสรรคต่าง ๆ ได้ง่ายและไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น การผลัดเปลี่ยนการเป็นผู้นำสิ่งสำคัญคือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผลัดเปลี่ยนกันแก้ไขปัญหาและภาระที่ยุ่งยากผสมผสานกับความรู้ความสามารถและพรสวรรค์ของทีมเข้าด้วยกัน ซึ่งคำพูดแห่งกำลังจะช่วยกระตุ้นให้ทีมงานแข่งแกร่งและพวกเราก็จะไปถึงเป้าหมายพร้อม ๆ กัน สิ่งสำคัญพวกเราจะต้องยืนเคียงข้างซึ่งกันและกันไม่ว่าจะเกิดอุปสรรคอะไรก็ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่คุณรู้สึกท้อถอย ผิดหวัง หรือช่วงเวลาที่มีแต่ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่รอคุณอยู่ หากพวกเรายังรักและสนับสนุนซึ่งกันและกันด้วยหัวใจของ Teamwork พวกเราก็จะสามารถพิชิตเป้าหมายด้วยพลังที่มุ่งมั่น
ที่มา : www.winnerestate.net ฉะนั้นคุณต้องรู้จักการทำงานเป็นทีม คำว่า “ ความสำเร็จสร้างได้ด้วยพลังของทีม” คำนี้ยังใช้ได้อยู่เสมอ สิ่งหนึ่งที่คุณควรมีคือ ความเสียสละ การเป็นผู้ให้ก่อน จงจำไว้ว่า เวลาให้ใครอย่าไปจำ แต่เวลารับของใครจงจดจำและตอบแทนเมื่อมีโอกาส เรียกว่า “ไม่ละเลยคนที่มีน้ำใจ ไม่ละเลยเป็นผู้ให้เมื่อดี” นั่นเอง
8. มีความขยันและตรงต่อเวลา
หัวหน้างานทุกคนชอบลูกน้องที่มีความขยันและตรงต่อเวลาเสมอ ถ้าหากคุณมีควมขยันมีระเบียบวินัยที่ดีแล้ว หัวหน้าจะติดตามงาน หรือสอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับงานได้โดยไม่สะดุดก็จะทำให้การทำงานราบรื่นไม่มีปัญหา
ทำให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้ หากคุณหยุดงานบ่อย มาสายบ่อย ก็จะทำให้การทำงานนั้นไม่ราบรื่น สะดุดและมีปัญหาเพราะงานนั้นคุณเป็นคนทำแต่ต้องให้คนอื่นคอยทำให้หรือต้องแก้ไขปัญหาให้คุณก็จะทำให้การทำงานร่วมกับหัวหน้าได้ไม่ดี ระหว่างการมีลูกน้องที่เก่งแต่ขี้เกียจ ไม่มีความตรงต่อเวลา ไม่มีความรับผิดชอบ คิดว่าตัวเองนั้นเก่ง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับลูกน้องที่ขยันแต่ไม่เก่ง แต่มีความพยายามที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอระหว่างสองคนนี้หัวหน้างานจะเลือกใคร คำตอบคงต้องตอบว่าหัวหน้างานต้องเลือกคนที่สองคือ ไม่เก่งแต่ขยันและมีความพยายามพร้อมพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอคงเรียกว่า คนเก่งหาง่ายแต่คนดีหายาก ถ้าองค์เลือกได้คงต้องการทั้งคนดีและคนดีนั่นเอง
9. มีความคิดสร้างสรรค์
คงไม่ปฏิเสธว่า หัวหน้างานต้องชอบลูกน้องที่มีความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียแปลกใหม่พร้อมเปลี่ยนแปลงวิธีการใหม่ ๆอยู่เสมอ หากวิธีการนั้นทำให้เสียเวลาในการทำงานน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์เหมือนกันหรือดีกว่าเดิม หัวหน้างานคนไหนที่ได้ลูกน้องประเภทนี้คงสบายใจ และทำงานอย่างมีความสุขเพราะมี Project ใหม่ ๆ ไปนำเสนอผู้บริหารเพื่อพัฒนาองค์กรให้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
10. การมีคุณธรรมและจริยธรรมในการทำงาน
หัวหน้างานที่ได้ลูกน้องที่มีคุณธรรมจริยธรรมในการทำงานแล้วเปรีบเสมือนว่าลูกน้องท่านนั้นมีความรับผิดชอบต่อตัวเอง และต่อสังคม เห็นอกเห็นใจคนอื่น ซึ่งลูกน้องประเภทนี้จะมีความซื่อสัตย์ มีความแข็งแกร่งและอดทน มีความเสียสละเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว จะเรียนกว่าเป็นลูกน้องที่น่ารักสุด ๆ
ถ้าลูกน้อง คิดดี ทำดี รู้สึกดีดี สังคมก็จะดี องค์ก็จะดีเช่นเดียวกัน อย่าลืมนะว่าองค์กรทุกองค์กร ต้องการบุคลากรที่เป็น คนกล้า คนเก่ง และเป็นคนดี