Systems Magic Thinking
การคิดเชิงระบบ

ในการดำเนินธุรกิจขององค์กรนั้น ปัจจัยส าคัญที่จะทำให้องค์กรสำเร็จตามเป้าหมาย นอกจากปัจจัย
ย่อยอื่นๆแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด 2 ปัจจัยคือ ระบบการการบริหารจัดการ และคุณภาพของบุคลากร
ซึ่งการบริหารจัดการนั้นต้องมีการจัดการในทุกระดับการทำงาน

การคิดเชิงระบบ

ในการดำเนินธุรกิจขององค์กรนั้น ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้องค์กรสำเร็จตามเป้าหมาย นอกจากปัจจัยย่อยอื่นๆแล้ว สิ่งสำคัญที่สุด 2 ปัจจัยคือ ระบบการการบริหารจัดการ และ คุณภาพของบุคลากร ซึ่งการบริหารจัดการนั้นต้องมีการจัดการในทุกระดับการทำงาน

แต่ปัญหาที่พบมากคือ พนักงานในระดับหัวหน้างาน มักขาดทักษะในการจัดการ โดยเฉพาะหัวหน้างานที่ถูกเลื่อนตำแหน่งมาจากพนักงานระดับปฏิบัติการ เนื่องจากพนักงานระดับนี้ เคยชินกับการลงมือปฏิบัติมากกว่าการคิด

สิ่งที่จะช่วยให้หัวหน้างาน มีทักษะในการจัดการ คือ การพัฒนาความรู้และทักษะในการคิด โดยต้องเน้นการคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งการคิดอย่างเป็นระบบได้ หัวหน้างานต้องเข้าใจภาพรวม และเครื่องมือต่างๆ ในการเพิ่มทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ และนำไปฝึกปฏิบัติในการทำงานจริง จึงจะเกิดทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดทักษะในการจัดการการทำงานได้อย่างแท้จริง

ดาวน์โหลดเนื้อหาที่นี่

ประโยชน์ที่ผู้รับการฝึกอบรมจะได้

9

เพื่อพัฒนาให้ผู้เข้าอบรม มีความรู้และทักษะ ด้านการคิด อย่างมีตรรกะ และ เป็นเหตุเป็นผล

9

เพื่อให้ผู้เข้าอบรม ได้เข้าใจการใช้เครื่องมือในการคิดอย่างเป็นระบบต่างๆ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างแท้จริง

9

 เพื่อให้ผู้เข้าอบรม มีแนวทางในการจัดการงานในหน้าที่ๆรับผิดชอบ และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานและองค์กร

9

เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจกระบวนการการประเมินผลงาน

หัวข้ออบรม

9

ส่วนที่ 1 ระบบคืออะไร

การจัดการสิ่งต่าง เป็นลำดับขั้นตอน เชื่อมโยงการทำงานของแต่ละส่วนให้เกิดรูปแบบปฏิบัติ เป็นแบบแผน ที่ชัดเจน ปฏิบัติซ้ำได้ เพื่อ สามารถสร้างผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ, ประสิทธิผล

  • โครงสร้าง
  • ลำดับขั้นตอน กระบวนการ
  • การจัดสรรทรัพยากร
  • วิธีการปฏิบัติที่สอดคล้องกับส่วนอื่นๆ
9

ส่วนที่ 2 ประโยชน์ของการคิดเชิงระบบ

  • สามารถวางแผนงานได้อย่าง ชัดเจน เป็นขั้นตอน มีประสิทธิภาพ
  • ช่วยบริหารจัดการทรัพยากร ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยจัดสรรหน้าที่ให้บุคลากร ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ช่วยลดความผิดพลาด ประหยัดเวลา ต้นทุน ในการทำงาน
  • สามารถตรวจสอบการทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9

ส่วนที่ 3 แนวทาง ในการคิดเชิงระบบ (Systemic Thinking)

  • รู้จักเป้าหมาย รู้สถานะปัจจุบัน
  • คิดให้จบ เป้าหมาย ย้อนถึง ปัจจุบัน ผลเกิดจากเหตุ
  • คิดทุกมิติ เข้าใจองค์ประกอบ หมวดหมู่
  • คิดเป็นลำดับขั้นตอน กระบวนการ
  • คำนึงถึงทุกปัจจัย ที่ส่งผลกระทบ และลำดับสำคัญของปัจจัยต่างๆ
  • วิเคราะห์ และรับมือกับความเสี่ยง
  • ตรวจสอบ ผลของระบบ
9

ส่วนที่ 4 แนะนำเครื่องมือสำหรับ ใช้ในการคิดอย่างเป็นระบบ

เครื่องมือมองภาพรวมระบบ

  • เราอยู่ไหน จะไปไหน จะไปอย่างไร (Grow Model)
  • ผังกระบวนการ Business Flow, Process Mapping, Work Flow
  • วงจร PDCA

เครื่องมือวิเคราะห์

  • การวิเคราะห์จุดอ่อน-จุดแข็ง (SWOT, TOWS Matrix)
  • ปัจจัยการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Turtle Diagrams)
  • การจัดลำดับความสำคัญ ของงาน (สำคัญ-เร่งด่วน)
  • การให้น้ำหนักความสำคัญของงาน
  • การวิเคราะห์งานด้วย ผังก้างปลา (Fish Bone Diagrams)
  • การวิเคราะห์ องค์ประกอบด้วย Tree Diagram
  • การคิดด้วยเหตุและผล Cause and Effect

เครื่องมือปรับปรุงพัฒนาการทำงาน

  • การตั้งคำถาม 5W+2H
  • การปรับปรุงงานแบบ ECRS , KAIZEN
9

ส่วนที่ 5 การประยุกต์หลักการคิดเชิงระบบ เพื่อนำไปใช้ในการทำงาน

  • การวิเคราะห์องค์ประกอบ ของเป้าหมายการทำงาน
  • การวิเคราะห์ ผังกระบวนการ, โครงสร้าง, ลำดับขั้นตอน ในการทำงานเดิม
  • การกำหนดตัวชี้วัด ในการทำงาน (เช่น คุณภาพการทำงานบริการ วัดได้อย่างไร)
  • การวิเคราะห์และออกแบบผังงาน, แผนงาน, แผนปฏิบัติการ ด้วยแนวคิดเชิงระบบ
  • การดำเนินการปฏิบัติงาน ตามหลัก PDCA และ Turtle Diagram
  • แนวทางการติดตาม, ประเมินผล, ปรับปรุงแก้ไขการทำงาน

รูปแบบการอบรม

9

เน้นความเข้าใจ ฝึกปฏิบัติ ให้ผู้เข้าอบรมเกิดความคิด สร้างสรรค์เพื่อการนำไปใช้ในการบริหารงานจริง บนพื้นฐานของหลักและเหตุผล การฝึกอบรมเป็นแบบครบทุกอารมณ์ ฮา สนุก เน้นกิจกรรมที่ตรงประเด็นได้สาระ บวกสไตล์บรรยายที่เข้าถึงผู้ฟัง เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัววิทยากรกิจกรรม เน้นกิจกรรมที่ให้ผู้เข้าอมรม ร่วมคิดร่วมทำ ที่ตรงตามการนำใช้กับการทำงานจริง

9

บรรยาย 35 %

9

กิจกรรมกลุ่ม 65%

รูปแบบการอบรม

9

1 วัน

เหมาะกับใคร ?

การจัดฝึกอบรมนั้น องค์กรเราออกแบบพัฒนาหลักสูตรใหม่ๆ ขึ้นเสมอ
เพื่อให้ตรงกับผู้เข้าอบรมมากที่สุด

ระดับผู้บริหาร

ผู้ที่เป็นหัวหน้า หรือ ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการที่จะส่งผลให้องค์กรประสบความสำเร็จ

ระดับผู้จัดการระดับสูง

ผู้ที่คอยดูองค์กรภาพรวมทั้งหมด เป็นผู้วางแผนเป้าหมายกลยุทธ์ ตลอดจนนโยบายขององค์กรมีความสำคัญในการกำหนดทิศทางขององค์กร

ระดับผู้จัดการระดับกลาง

ผู้ที่คอยทำหน้าที่ประสานงานระหว่างผู้จัดการระดับสูงและผู้จัดการระดับต้น คอยสื่อสารกลยุทธ์ต่างๆและคอยแบ่งงานเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายขององค์กร

ระดับผู้จัดการระดับต้น

ผู้ที่คอยแบ่งงานให้บุคลากรในทีม พร้อมสื่อสารเป้าหมายของทีม เพื่อให้เป้าหมายของทีมสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร

ระดับปฏิบัติการอาวุโส

บุคลากรผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านโดยเฉพาะ พร้อมทำงานเพื่อให้องค์กรสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่

ระดับปฏิบัติการ

บุคลากรผู้ที่พร้อมเรียนรู้ และพัฒนาทักษะต่างๆ เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพของตนเอง โดยการพัฒนานั้นต้องสอดคล้องต่อเป้าหมายองค์กร

วิทยากรที่เชี่ยวชาญ

อาจารย์วิภาวดี เผ่าภคะ (อ.ปุ๊)

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านพัฒนาภาวะผู้นำ การโค้ช การสื่อสาร การสร้างแรงจูงใจ และการบริหารโครงการ

อาจารย์ณษรา สุวศราภรณ์ (อ.ปุ๊ก)

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านการโค้ช การขาย การบริการ การสร้างแรงจูงใจ การบริหารโครงการ และอื่นๆ

อาจารย์จักรพันธ์ เธียราวัฒน์ (อ.จักร)

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านพัฒนาภาวะผู้นำ การสร้างแรงจูงใจ การบริหารโครงการ และอื่นๆ

อาจารย์ธนเดช ทิพยอภิชยากุล (อ.เปี๊ยก)

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านพัฒนาภาวะผู้นำ การโค้ช การสร้างแรงจูงใจ การบริหารโครงการ การขายและการบริการ

อาจารย์เศรษฐพงศ์ ผดุงพิสุทธิ์ (อ.เซ็ธ)

วิทยากรผู้เชี่ยวชาญทางด้านการขาย การบริการ การบริหารโครงการ และอื่นๆ