กาแฟแบบไหนที่…ชอบ ชีวิตแบบไหนที่…ใช่
คุณเคยมีปัญหาอย่างนี้บ้างมั้ย????ไปถึงร้านกาแฟแล้วคิดในใจว่า ตรูจะกินอะไรดีเอสเพรสโซ, อเมริกาโน, คาปูชิโน, ลาเต้ และมอลค่า มันต่างกันไงแฮะ ????
ผมเป็นคนนึงที่เวลาไปร้านกาแฟแล้วเจอปัญหานี้ วันนี้ถือโอกาสพาทุกท่านไปหาคำตอบกัน
“เอสเพรสโซ” (Espresso) หมายถึง น้ำกาแฟเข้มข้นแก้วเล็ก 1 ช็อต(Espresso Shot)
เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีควร ดื่มทันทีที่ได้รับ โดยไม่เติมน้ำตาลและนม
“อเมริกาโน” (Americano) ประกอบด้วยช็อตเอสเพรสโซ ผสมกับน้ำ จะเป็นน้ำร้อนหรือน้ำเย็น แล้วแต่ว่าจะเลือกสั่ง
“ลาเต้” (Latte) ประกอบด้วยช็อตเอสเพรสโซ ผสมกับนม และฟองนม เหมาะกับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟใส่นม รสชาติที่ได้ก็จะเป็นกาแฟที่ใส่นมแล้ว
“คาปูชิโน” (Cappuccino) ประกอบด้วยช็อตเอสเพรสโซ ผสมกับนม และฟองนม จะเคาปูชิโนจะมีปริมาณของฟองนมมากกว่าลาเต้ มีปริมาณของนมร้อนน้อยกว่านั่นเอง ซึ่งทำให้คาปูชิโนมีรสชาติของกาแฟเข้มกว่าลาเต้
“มอคค่า” (Mocha) ประกอบด้วย ช็อตเอสเพรสโซ ผสมกับนม และน้ำเชื่อมช็อคโกแลต เหมาะกับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟที่มีความหอม หวานมันของช็อคโกแลตผสมอยู่ด้วย
เข้าใจตรงกันนะครับ ^_^
ขนาดไปร้านกาแฟ จะสั่งกาแฟ เรายังต้องรู้เลยว่า กาแฟแต่ละอย่างเป็นอย่างไร มีส่วนผสมอะไรแล้ว……เวลาในชีวิตล่ะ แต่ละวันเรามีงานที่ต้องทำตั้งเยอะแยะ เราจะมีส่วนผสมอย่างไร
คนทุกคนมีศักยภาพไม่มีขีดจำกัด แต่มีเวลาในชีวิตจำกัดคนทุกคนมีเวลาเท่ากัน แต่การจัดสรรเวลาในชีวิตแต่ละคนไม่เท่ากันคนทุกคนจัดสรรเวลาชีวิตต่างกัน ทำให้การประสบความสำเร็จในชีวิตต่างกัน
ถ้าใครอายุประมาณ 20 – 30 คุณจะพบว่า เรากับเพื่อนความรู้ความสามารถไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่
ถ้าใครอายุประมาณ 30 – 40 คุณจะพบว่า ช่องว่าเรากับเพื่อนที่เรียนจบมาเหมือนกัน แต่ชีวิตเริ่มไม่เหมือนกันแล้ว
ถ้าใครอายุประมาณ 40 -50 คุณจะพบสัจธรรมบางอย่าง เช่น หน้าที่การงาน การเงิน สุขภาพ ของเพื่อนคุณแต่ละคน แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ถ้าใครอายุ 50++ คุณจะรู้สึกว่า ถ้าย้อนเวลาไปได้ คุณจะทำอะไรบางสิ่งบางอย่างกับชีวิตตั้งแต่คุณมีแรง
วันนี้ ผมขอนำเสนอส่วนผสมของความสำเร็จในชีวิตมาฝากทุกท่านถ้าพร้อมแล้ว……..ตามมา
1 ใส่พลังในชีวิต 70% ให้กับสิ่งที่คุณทำได้ดีผมเคยคุยกับนักเขียนชื่อดังในยุคนี้ท่านนึง คือ ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร เราคุยกันเรื่องที่คุณขุนเขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย คุณขุนเขายิ้มและบอกว่า พี่เชื่อมั้ย ผมรู้สึกว่า ผมชอบเขียนหนังสือ และผมทำได้ดี และเมื่อผมใส่ความตั้งใจ ใส่เวลาลงไปพยายามมากขึ้น ผมยิ่งทำได้ดีขึ้นอีก
เราคงเคยได้ยินเรื่องราวเหล่านี้มาเยอะ ผู้บริหารบางคนเริ่มจากจบม.6 ทำงานไปด้วย รักการทำงาน ส่งเสียตัวเองเรียนจนจบปริญญาโท และทำงานจากเด็กฝึกงานจนเป็นผู้บริหารเงินเดือนหลายแสน, นักฟุตบอลบางคนเริ่มต้นจากชอบเตะฟุตบอล ฝึกซ้อมทุกวัน ทุ่มเทหลายต่อหลายปีจนทุกวันนี้กลายเป็นนักฟุตบอลระดับโลก คนเหล่านี้เขาทุ่มเทพลัง 70% ในชีวิตของเขาพัฒนาจากทักษะที่ทำได้ดี ให้ดีขึ้น ดีขึ้น จนทักษะเหล่านี้กลายมาเป็นความชำนาญ เราลองดูว่า เรามีอะไรที่ทำได้ดี ลองพัฒนาสิ่งนั้นดู ใครชอบเรียนภาษาอังกฤษ คุณลองใส่พลัง 70%ในชีวิตให้กับภาษาอังกฤษ เชื่อสิไม่นานคุณก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษแน่นอน
2 ใส่พลังในชีวิต 25% ให้กับสิ่งใหม่เมื่อคุณรู้ว่า คุณชอบอะไร และทำสิ่งใดได้ดีแล้ว สิ่งที่สำคัญต่อมา คือ เปิดใจรับกับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต เราอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประโยคที่ว่า “แค่คุณหยุดก้าว คุณก็ถอยหลังแล้ว” นี่คือ เรื่องจริง คุณต้องใส่พลัง 25% ให้กับสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต ลองเปลี่ยนสถานที่ที่เคยไป อาหารที่เคยกิน ลองคบเพื่อนใหม่ๆ หนังสือดีๆ แล้วคุณจะพบว่า คุณทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด เป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณเป็น
3 ใส่พลังในชีวิต 5% ที่เหลือให้กับสิ่งที่คุณไม่ถนัดใช่ครับ นี่อาจจะเป็นจุดอ่อนของคุณ แต่ผมกำลังบอกว่าให้คุณลองดู ใครที่ไม่กล้าพูดหน้าห้อง หน้าที่ประชุม ลองฝึกดู ใครที่ไม่ถนัดทำอะไร ลองทำดู อย่างที่ยกตัวอย่าง ถ้าคุณไม่กล้าพูดต่อหน้าที่ประชุม ลองพูดดูครับ คุณทำได้ ถ้าคุณทำงานด้านเอกสารไม่เก่ง ลองฝึกทำดู มันจะช่วยให้ชีวิตคุณเป็นระเบียบมากขึ้น ถ้าคุณรู้สึกว่าไม่ถนัดงานขาย ลองฝึกดูครับ การใส่พลัง 5% ในชีวิตให้กับสิ่งที่ไม่ถนัด นี่เป็นส่วนผสมที่สำคัญอีกอย่างในชีวิต และเป็นส่วนผสมที่ทำให้ชีวิตเรามีคุณค่ามากขึ้น กลมกล่อมมากขึ้น
วันนี้คุณรู้ส่วนผสมของกาแฟแต่ละอย่างแล้ว คุณชอบทานกาแฟแบบไหน เลือกเลยครับวันนี้คุณรู้ส่วนผสมของการประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วครับ คุณอยากได้ชีวิตแบบไหน จัดเลยครับ
#KeySolutionstraining #กาแฟที่ชอบชีวิตที่ใช่
เครดิตภาพ : http://www.mensjournal.com/expert-advice/drink-up-9-myths-about-coffee-debunked-20151119/coffee-prevents-all-kinds-of-nasty-diseasesข้อมูลประกอบ : http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewBrowse.aspx?