เทคนิคการนำเสนอขั้นเทพ

จำได้มั้ย?  ตอนเด็ก เราต้องออกไปยืนรายงานหน้าห้องจำได้มั้ย?  ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราต้องออกไปนำเสนอโครงการจำได้มั้ย?  ว่าเราตื่นเต้น กังวล หรือทำได้ดีขนาดไหน แล้วตอนนี้ล่ะเราเป็นอย่างไร

        เวลาต้องขึ้นเวที เวลาต้องถือไมค์พูด เวลาที่ต้องพูดต่อหน้าคนเยอะๆ เราจะพบว่า คนจะมี 3 แบบ1 พยายามทั้งผลักและดันคนอื่นให้ขึ้นไปพูดแทน และหาเหตุผลต่างๆ มาสนับสนุน2 ลังเลว่าจะขึ้นดีหรือ ไม่ขึ้นดี กลัวว่าถ้าขึ้นไปอาจทำได้ไม่ดีนัก แต่ถ้าไม่มีใครขึ้นพูด เราก็ขึ้นได้3 เสนอตัวเองว่า สามารถขึ้นไปพูด ขึ้นไปนำเสนอได้ และเมื่อออกไปพูดแล้ว ก็ทำได้ดีด้วย
        คน 3 แบบ ต่างกันเพราะอะไร ? คำตอบคือ…..ความมั่นใจธรรมชาติของมนุษย์ จะมั่นใจในส่ิงที่ต้วเองเตรียมความพร้อม และทำได้ดี เคยมีคนชื่นชมในเรื่องนั้นๆเช่น ถ้าเราแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มียี่ห้อ เราใส่แล้วดูดี มีคนชม เราจะมั่นใจเวลาเราใส่ชุดนั้น หรือ ถ้าเราเคยทำอาหารแล้วเพื่อนชมว่า อร่อย เราจะทำมันด้วยความมั่นใจ ถ้าเราเคยเล่นฟุตบอลแล้วยิงประตูได้ เราจะอยากเล่นมันบ่อยขึ้นและอะไรก็ตามที่เราทำบ่อยขึ้น จากทักษะ ——> ความชำนาญ 
        และนี่เองเป็นเคล็ดลับของความสำเร็จในทุกทุกเรื่องของชีวิตทักษะการนำเสนอก็เช่นกัน คนที่มีโอกาสยืนจับไมค์บ่อย ย่อม “ชำนาญ” และมั่นใจ
        วันนี้ Key Solutions Training ขอนำเสนอเคล็ดลับเพิ่มพูนทักษะการนำเสนอให้กับทุกคนได้นำไปใช้ เคล็ดลับนี้จำง่ายมาก คือขึ้น    ——>   ตื่นเต้นกลาง ——>   กลมกลืนจบ     ——>   จับใจ


        1 เริ่มจาก  “ขึ้น ตื่นเต้น”เคยได้ยินมั้ย คนเราจะตัดสินอะไรเพียงแค่เสี้ยววินาที ดังนั้นถ้าตอนเริ่มต้น เราสร้างความประทับใจ และตื่นเต้นน่าสนใจ เราจะดึงดูดผู้ฟังให้อยู่กับเรา สังเกตดูซิ เวลานักร้องขึ้นเวทีมา แต่ละคนก็ใช้เทคนิคนี้ เช่น พูดเสียงดังว่า “สวัสดีครับ” หรือร้องฮึมฮำ อะไรบางอย่าง ให้มีคนกริ๊ด นั่นแหละคือ เขาสะกดทุกคนเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น เวลาเราขึ้นพูด เราต้องใช้นำ้เสียงที่ดังกว่าปกตินิดนึง (ไม่ใช่ตะโกน) และมีรอยยิ้มบนใบหน้า พูดเรื่องอะไรเล็กๆ น้อยๆ อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะนำเสนอเลยก็ได้ เช่น พูดถึงเหตุการณ์สำคัญในปัจจุบัน ฝนตก น้ำท่วม ดารา หรือเรื่องกีฬา ที่ทำให้คนดูโฟกัสมาที่ตัวเรา  บางคนใช้เทคนิคเฉพาะตัว เช่น พี่โน๊ตมักจะพูดว่า “หากพวกเรากำลังสบายจงตบมือพลัน” นี่แหละครับ ขึ้น ——>  ตื่นเต้น

        2 กลาง ——>  กลมกลืนหมายความว่า เนื้อเรื่อง เนื้อหา และบรรยากาศทุกอย่างสอดคล้องตรงตามประเด็นที่เราวางไว้ ซึ่งเทคนิคนี้สำหรับมือใหม่ อาจจะจดเป็นหัวข้อที่กระดาษ หรือ ทำเป็นสไลด์ใน Powerpoint เพื่อที่จะทำให้ตัวเองจำได้ว่า เราจะต้องพูดอะไร  นอกจากนั้นเราต้องใช้น้ำเสียงที่น่าฟัง ซึ่งในงานวิจัยหลายตัวพบว่า คนชอบฟังเสียงทุ้ม มากกว่าเสียงแหลม ดังนั้นเราต้องปรับระดับเสียงเราให้เหมาะสม เพื่อให้ตรึงคนฟังให้อยู่กับเราให้ได้

        3 จบ ——> จับใจนี่คือ ภาพที่เราอยากให้เกิดขึ้น เพราะ ไม่ว่าเราจะพูดใช้เวลาแค่ 3 นาที หรือพูดเป็นชั่วโมง คนส่วนใหญ่จะจำได้เฉพาะตอนจบ ดังนั้นถ้าเราจบได้น่าประทับใจ การนำเสนอครั้งนี้ถือว่า ประสบความสำเร็จ 

        เทคนิคการพูดจบ ให้จับใจ เราต้องดูเนื้อหาที่พูด ว่าเรื่องที่เราพูดเกี่ยวกับอะไร ใส่บทสรุปที่ฟังแล้วเข้าใจง่ายๆ หรือใส่คำคม คำกลอน ลงไปเพื่อให้น่าสนใจมากขึ้น บางคนอาจใช้เทคนิคโดยการ “หยุด” พูดสักนิด แล้วบอกว่า “ครับ จากที่กล่าวมา ผมสรุปว่า……” ซึ่งการจบ แบบ จับใจ จะทำให้ผู้ฟังให้คะแนนกับการนำเสนอเราสูงขึ้นมาทันที
        ปัจจุบันมีเวทีให้เราสามารถฝึกการนำเสนอ และมีตัวอย่างให้ดูมากมาย ซึ่งตัวอย่างนึงที่เราอยากแนะนำคือ รายการ TED Talks ซึ่งย่อมาจาก 3 คำคือ Technology, Entertainment and Design เป็นงานรวมตัวกันของคนที่มีความคิดดีดี มีประสบการณ์ตรงแล้วนำมาเล่า รายการนี้เริ่มจัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527โดยเริ่มจากประเทศสหรัฐอเมริกา และมีบุคคลมากมายผ่านเวทีนี้มาแล้ว โดยทั้งหมดถูกจำกัดให้พูดภายใน 18 นาที ลองเข้าไปดูตัวอย่างได้ที่ https://www.ted.com/talks/adora_svitak?language=th 
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร อายุเท่าไหร่ และการศึกษาระดับไหนไม่ว่าคุณจะเคยกลัว หรือกังวลกับการพูด การนำเสนอมากน้อยขนาดไหนเชื่อเถอะว่า เราทุกคนสามารถนำเสนอได้ดี พัฒนาทักษะเหล่านี้จนเกิดความชำนาญ
        ขึ้น    ——>   ตื่นเต้นกลาง ——>   กลมกลืนจบ     ——>   จับใจ
        ง่ายๆ แบบนี้ “คุณ” ก็ทำได้